LISA KA-SI-NO

ติ๊ดตี่…นางฟ้านักคิด กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  มี นางฟ้า ฝึกหัดองค์หนึ่ง ชื่อว่า”ติ๊ดตี่”    ติ๊ดตี่ เรียนวิชาเวทมนตร์ มาหลายปี  พอใกล้เรียนจบ คุณครู นางฟ้าจึง ขอทดสอบติ๊ดตี่ ด้วยการใ ห้ติ๊ดตี่ออกเดินทาง ไป ช่วยเหลือ ผู้ คน ให้ได้ อย่างน้อย 3 คน โดยมี ข้อแม้คือ … ห้ามใช้เวทมนตร์ ใด ๆ ในการช่วยเหลือ ผู้คนเหล่านั้นเป็นอันขาด ติ๊ดตี่แปลกใจ และคิดว่าคุณครูอาจพูดผิด   เพราะนางฟ้ากับการใช้เวทมนตร์เป็นของคู่กัน แต่เมื่อคุณครูยืนยันตามที่พูด  ติ๊ดตี่จึงต้องทำตามคำของคุณครูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันรุ่งขึ้น   ติ๊ดตี่ออกเดินทางจนได้ พบเด็กชายคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่กับน้องตัวเล็ก ๆ ของเขา   เมื่อติ๊ดตี่ซักถาม   เด็กคนพี่ จึง บอกติ๊ดตี่ว่า   เขากับน้องเป็นเด็กกำพร้า   วันนี้ เป็น วันเกิดของน้อง  ตัวเขาในฐานะพี่ชาย จึงอยากหาขนมเค้ก มาฉลองวันเกิดให้  แต่เขา มีเงิน น้อย ไม่พอซื้อขนมเค้ก   เขาจึงร้องไห้เพราะเสียใจที่ ทำให้น้องมีความสุขไม่ได้  เมื่อติ๊ดตี่ได้ฟัง   เธอก็เห็นใจเด็กน้อยสองพี่น้องมาก  แม้เธอจะใช้เวทมนตร์ ช่วยเหลือเด็กทั้งสอง ไม่ได้   แต่เธอมีใจอยากช่วยพวกเขาจริง ๆ  ติ๊ดตี่ จึงลองคิด …คิด…แล

  สิ้นสุดการรอคอยกว่า 14 ปี สำหรับ  Jurassic  Kingdom   กับเรื่องราวในอีก 22 ปีต่อมา   บน เกาะอิสลา นูบลา ที่ ถูกสร้างขึ้น และเปิดเป็นสวนสนุก เพื่อจัดแสดงไดโนเสาร์เต็มรูปแบบ ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัดต่อพันธุกรรม และการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ไดโนเสาร์ให้มีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ให้พวกมันมีทั้งขนาดและความปราดเปรื่องที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม จนนำมาสู่หายนะครั้งใหม่ให้มนุษย์ต้องเอาชีวิตรอดอีกครั้ง  โดยใน Jurassic kingdom ซึ่งถูกสร้างต่อจากต้นฉบับมานานกว่า 2 ทศวรรษนั้น ค่อนข้างถูกวิพากย์วิจารณ์ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่ถูกนำเสนอไม่ตรงกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจจะเป็นด้วยเพราะพล็อตเรื่องที่เป็นการพูดถึง การดัดแปลงพันธุกรรม ให้ไดโนเสาร์มีความเฉลียดฉลาดและน่าสนใจกว่าเดิม ทำให้รายละเอียดหลายๆ เ รื่องเกี่ยวกับไดโนเสาร์ถูกบิดเบือน ไป ไม่ว่าจะเป็น…   “เวโลซีแรปเตอร์”   ไดโนเสาร์กินเนื้อ ที่ฉลาดและว่องไวมา เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก ของ Jurassic kingdom ที่ถูกนำเสนอในแง่ของสัตว์ที่เป็นภัยคุกคามและมีขนาดที่ใหญ่เกือบเท่ามนุษย์ ทั้งๆ ที่ ความจริงแล้ว แรปเตอร์ มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว

  คุณรู้จัก ซูชิ ดีหรือยัง  ซูชิ (Sushi)  อาหารคำเล็ก ๆ ที่เป็นเพียงประเภทหนึ่งของอาหารญี่ปุ่น วันนี้กำลังฟีเวอร์ไปทั่วโลก หากคุณยังไม่เคยกินซูชิ คงต้องถามว่าไปอยู่ที่ไหนมา เพราะทุกวันนี้แค่เดินเข้าไปซูเปอร์มาเก็ตของทุกห้าง เราก็หาซูชิทานได้แล้ว            ซูชิ เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ซึ่งหมายความถึงอาหารที่กินควบคู่กันระหว่างข้าวปั้นที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู กับปลา เนื้อ หรือของคาว รวมถึง ผัก ไข่ อาหารทะเล ผัก ไข่ โดยวางโปะบนข้าว แต่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะชาวต่างชาติจะเข้าใจว่า ซูชิ คือข้าวปั้นที่กินกับปลาดิบเท่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้ว ปลาดิบ ก็คือ ‘ซาชิมิ’ (sashimi) ของญี่ปุ่นนั่นเอง ดังนั้นร้านที่ขายซูชิส่วนใหญ่ก็จะมีซาชิมิขายด้วย            ในร้านอาหารญี่ปุ่นมีซูชิให้เลือกรับประทานหลายแบบ เราอาจจะคุ้นเคยกับแบบที่มีปลาดิบวางอยู่ด้านบน ซึ่งเรียกว่านิกิริซูชิ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงสูง นอกจานิกิริซูชิแล้วซูชิยังมีแบบอื่น ๆ อีก เรียกว่าอะไรกันบ้าง วันนี้เราไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กัน Type of Sushi            ซูชิเ